ภาษาอังกฤษ (English) เป็นภาษาที่ใช้ครั้งแรกในอังกฤษสมัยต้นยุคกลาง ปัจจุบันเป็นภาษาที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดในโลก ใช้ในหลายประเทศทั้ง สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ และประเทศในแคริบเบียน พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่หนึ่ง ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ที่มีผู้พูดมากที่สุดเป็นอันดับสามของโลก รองจากภาษาจีนกลาง และภาษาสเปน มักมีผู้เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง และภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการของสหภาพยุโรป หลายประเทศในเครือจักรภพแห่งชาติ และสหประชาชาติ อ้างอิง wiki
TOEIC (Test of English for International Communication) คือ การทดสอบภาษาอังกฤษสำหรับการสื่อสารนานาชาติ มักถูกใช้วัดระดับความรู้ภาษาอังกฤษสำหรับสมัครงาน หรือสมัครเรียน เป็นการทดสอบทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ 2 ทักษะ ได้แก่ การฟัง (Listening) และ การอ่าน (Reading) ใช้เวลาทดสอบประมาณ 2 ชั่วโมง โดยลักษณะข้อสอบเป็นข้อสอบแบบปรนัย แบ่งเป็น การฟัง (Listening) 100 ข้อ 495 คะแนน และ การอ่าน (Reading) 100 ข้อ 495 คะแนน รวมจำนวนข้อสอบ 200 ข้อ คะแนนเต็ม 990 คะแนน
คำสันธาน (Conjunction) คือ คำที่ใช้เชื่อมคำ หรือประโยคเข้าด้วยกัน แบ่งได้เป็น 4 กลุ่ม ดังนี้ 1. Coordinating Conjunctions คือ คำที่ใช้เชื่อมคำ หรือประโยคเข้าด้วยกัน โดยคำที่นำมาเชื่อมกันจะมีน้ำหนัก หรือความสำคัญเท่ากัน ตัวอย่างคำสันธาน เช่น and, or, but, for, so, yet เช่น He is handsome and she is beautiful. He wants to play video-game or listen to some music. My sister worked hard but she did not succeed. She drove in, for the door was open. The door was open so she drove in. Sombat plays soccor well, yet his favorite sport is tennis. 2. Correlative Conjunctions คือ คำสันธานที่ต้องใช้คู่กัน และมีหน้าที่คล้าย Coordinating Conjunction ที่เชื่อมคำที่น้ำหนักเท่ากัน ตัวอย่างคำสันธาน เช่น not only .. but also, either .. or, as .. as, both .. and เช่น Sombat needs not only food but also love. Somchai can go to either Bangkok or Lampang for his holiday. Somying runs as fast as Somchai do. Somkuan enjoy both swimming and diving. 3. Conjunctive Adverbs คือ คำสันธานที่เป็นกริยาวิเศษที่ใช้เชื่อมคำ ข้อความ หรือประโยคเข้าด้วยกัน อาจเชื่อมได้ทั้งคำที่ขัดแย้ง หรือสอดคล้องกัน ตัวอย่างคำสันธาน เช่น after all, also, as a result, besides, in fact, instead เช่น After all we had done, he was still ungrateful. I bought a new shirt; also I bought some new shoes. It rained very hard; as a result, the game was canceled. This is good cheese; besides it's made locally. I know Tom can, in fact, sing very well. We went by train instead of by car. 4. Subordinating Conjunctions คือ คำสันธานที่ใช้เชื่อมประโยคใจความรอง เข้ากับประโยคใจความหลัก ตัวอย่างคำสันธาน เช่น before, after, because, if, although, since, until, as soon as เช่น The wife cried before the husband left. The husband cried after the wife left. A student was absent because he was ill. I will come back if you smile to me. Although it was hot, I went biking. She has been busy since she came to home. She did not come until the party was half over. She will come as soon as the party begins. แนะนำเว็บไซต์ (Web Guide) หัวข้อ Conjunction + https://webapps.towson.edu (listing) + http://www.stou.ac.th + http://www.dailyenglish.in.th + http://grammar.yourdictionary.com + https://en.wikipedia.org + conjunction.csv
พบข้อสอบระดับอุดมศึกษา ในข้อสอบชุดนี้เป็น Exit Examination จำนวน 50 ข้อ ถูกจัดทำขึ้นประกอบการพัฒนาภาษาอังกฤษของนักศึกษาแบบ Practice ที่เป็นหลักสูตร Self Study ไม่มีผู้สอน ซึ่งผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองไปทีละ lesson ผ่านการทำแบบฝึกหัด แล้วมีการประเมินผลนอกระบบ ซึ่งศัพท์ชุดนี้ได้จากการรวบรวมจากชุดข้อสอบประเมินผล จึงนำมาแบ่งปันรวมทั้งหมด 200 คำ แบ่งเป็น 10 ชุด ๆ ละ 20 คำ ให้ได้ฝึกฝนก่อนเข้าทำข้อสอบ + http://thainame.net
รวม 20 คำศัพท์จากข้อสอบ ชุดที่ 1 1 achievement = ความสำเร็จ 2 archaeologist = นักโบราณคดี 3 civilization = อารยธรรม 4 cliff dwelling = ที่อยู่อาศัยบนหน้าผา 5 crowd = ฝูงชน 6 dairy = จากนม 7 dietary = การบริโภคอาหาร 8 extinct = สูญพันธ์ 9 fascination = ความตรึงใจ 10 increase = เพิ่ม 11 looting = การแย่งชิง 12 neat = เรียบร้อย 13 penetrate = เจาะ 14 poultry = สัตว์ปีก 15 ranchers = เจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ 16 rise = ขึ้น 17 ruin = ทำลาย 18 sacrifice = เสียสละ 19 stubborn = หัวดื้อ 20 supplement = เสริม
มีโอกาสอ่านหนังสือเตรียมสอบของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 ที่จะต้องไปสอบเข้าเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในวิชาภาษาอังกฤษ พบว่าหัวข้อแรกที่กล่าวถึงคือ countable nouns กับ uncountable nouns ซึ่งเป็นหัวข้อที่เตือนว่า ภาษาอังกฤษต้องเริ่มต้นจากการรู้ความหมาย อย่างน้อยต้องรู้ว่าคำนั้น นับได้หรือไม่ + countable01.pptx