# 80 โทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นห้อยคอ
9 เมษายน 2550 - 15 เมษายน 2550
10 ปีก่อนผู้เขียนมีโทรศัพท์เคลื่อนที่สีดำทมึนเป็นรุ่นใช้มือถือเท่านั้น จะนำมาห้อยคอคงไม่สะดวก เพราะใหญ่ แข็งแรง และหนักมาก โทรศัพท์เครื่องต่อมาเป็นรุ่นห้อยคอได้มีช่องเล็กสำหรับร้อยสายคล้องคอ ร้านจำหน่ายโทรศัพท์ส่วนใหญ่มีสายคล้องคอเป็นอุปกรณ์เสริมให้เลือกได้หลากหลาย และเป็นสินค้ายอดนิยม เพราะหลังใช้ไประยะหนึ่งจะมีเชื่อรา เบื่อของเก่า หรือเสื่อมสภาพจากการใช้งาน ทำให้ต้องซื้อเส้นใหม่เสมอ เมื่อนึกถึงโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นห้องคอ ก็ต้องเปรียบเทียบกับอุปกรณ์อื่นที่พกติดตัวเมื่อออกจากบ้านเช่น สร้อยคอ นาฬิกา และกระเป๋าสตางค์ เป็นต้น
การห้อยสร้อยคอทองคำ หรือวัตถุมงคลเริ่มเสื่อมความนิยมลง เพราะถูกแทนที่ด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่ขนาดเล็กมากขึ้น เพราะมีมูลค่าชัดเจน เป็นเครื่องประดับชิ้นหรู ใช้ประโยชน์เป็นที่ประจักษ์ ไม่พลาดการติดต่อสื่อสารเมื่อมีสายเรียกเข้า และเป็นที่ยอมรับในทุกสังคม เช่น ไปทานข้าวนอกบ้านในชนบท แต่ลืมกระเป๋าสตางค์ การวางโทรศัพท์เป็นประกันแล้วกลับมาชำระเงินในภายหลัง ย่อมเป็นที่น่าเชื่อถือกว่าวางสร้อยคอทองคำ หรือวัตถุมงคลที่ประเมินค่าได้ยาก โทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบันสามารถบันทึกภาพวัตถุมงคลได้มากมาย บันทึกบทสวดของอาจารย์ชื่อดัง และเปิดฟังได้ทุกที่ทุกเวลา
ข้อมูลจากอาจารย์เยาวลักษณ์ งามแสนโรจน์ ทำให้ทราบว่าวัยรุ่น 2 ใน 3 ไม่เคยสวมใส่นาฬิกาข้อมือ และยอดซื้อนาฬิกาในอเมริกาต่ำกว่าปีก่อนถึง 17% ทำให้เชื่อได้ว่านาฬิกาข้อมืออาจหายไปจากสังคมมนุษย์ในไม่ช้า เพราะนาฬิกาข้อมือเป็นเหมือนโซ่ตรวน เป็นของนอกกายที่มีสิ่งอื่นมาทดแทนได้ และความโก้หลูกลายเป็นความเท็จ ของเลียนแบบมีราคาไม่กี่ร้อยบาทเหมือนของจริงราคาหลายแสนจนแยกความแตกต่างได้ยาก ปัจจุบันเราทราบเวลาได้จากโทรศัพท์เคลื่อนที่ บางรุ่นใช้คล้องข้อมือแทนนาฬิกา และส่วนใหญ่มีหน้าจอแสดงผลที่กว้าง มีภาพสวยให้เปลี่ยนได้ทุกวัน ตั้งปลุกได้หลายเสียง ให้ความสว่างแทนไฟฉายยามฉุกเฉิน ใช้แทนวิทยุหรือทีวี เป็นกล้องถ่ายภาพ เป็นเครื่องบันทึกเสียง หรือวีดีโอคลิ๊ปได้ในทุกสถานการณ์ แม้แต่เวลาที่ไม่ควรทำก็ยังถ่ายเก็บไว้
น่าเสียดายที่โทรศัพท์เคลื่อนที่ยังใช้แทนกระเป๋าสตางค์อย่างเต็มรูปแบบไม่ได้ ถ้าเป็นไปได้จะทำให้มนุษย์ลดภาระการพกพาทรัพย์สินได้อีกหนึ่งชิ้น แต่แนวโน้มของเทคโนโลยีมีความเป็นไปได้ เช่น นำบัตรเครดิต หรือสมาร์ทคาร์ดบรรจุลงไปในเครื่องโทรศัพท์ เมื่อจ่ายค่าสินค้าหรือบริการก็เพียงแต่สแกนลายนิ้วมือเพื่อพิสูจน์ตัวตนก่อนโอนค่าสินค้าผ่านการเชื่อมต่อแบบไร้สาย เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เราท่านอาจได้ใช้ในวันรุ่งก็ได้ ใครจะรู้