# 135 จากแผ่นเอ็มพีสามสู่แผ่นดีวีดีคาราโอเกะ
5 พฤษภาคม - 11 พฤษภาคม 2551
มากกว่า 5 ปีแล้วที่สามารถหาซื้อแผ่นซีดีเพลงเอ็มพีสาม (MP3 CD) ได้จากห้างสรรพสินค้า แผ่นซีดีเพลงเหล่านั้นมักเป็นเพลงสากล หรือเพลงไทยย้อนยุคที่ไม่มีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ แต่ละแผ่นจุเพลงได้ถึง 200 เพลง ถ้าฟังต่อเนื่องอาจใช้เวลาถึง 10 ชั่วโมงจึงจะครบทุกเพลง ปัจจุบันการหาแผ่นซีดีเพลงเอ็มพีสามที่มีเพลงออกใหม่สามารถหาได้จากตลาดสดบางแห่ง หรือร้านค้าในห้างพันธุ์ทิพย์สรรพสินค้า เพราะต้นทุนค่าแผ่นซีดีไม่ถึง 5 บาท แต่ราคาขายสูงถึง 100 บาท โดยมีต้นทุนค่าเครื่องคัดลอกซีดีไม่ถึง 1000 บาท จึงมีพ่อค้าที่หาสินค้ามาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และผู้บริโภคก็ลุมล้อมร้านจำหน่ายซีดีได้ทุกวันที่พ่อค้ามาตั้งแผง ถ้าวันใดไม่เห็นพ่อค้าก็อาจเป็นเพราะถูกผู้รักษากฎหมายเชิญตัวไปที่สถานีตำรวจเนื่องจากกระทำความผิดตามกฎหมายลิขสิทธิ์
เป็นที่ทราบกันดีว่าเพลงออกใหม่มักมีกฎหมายลิขสิทธิ์คุ้มครองอยู่ การนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตย่อมมีความผิดตามกฎหมาย แต่พ่อค้ามากมายก็ยังทำสำเนาแผ่นซีดีเพลงเอ็มพีสาม และมีลูกค้าสนใจซื้อไม่เคยขาด เพราะราคาระหว่างแผ่นลิขสิทธิ์กับแผ่นผีต่างกันหลายเท่า การซื้อซีดีเพลงทั้งอัลบั้มอาจมีเพียง 16 เพลง แต่แผ่นซีดีเพลงเอ็มพีสามสามารถจุเพลงได้แผ่นละ 10 อัลบั้มทีเดียว
เครื่องเล่นดีวีดีเข้ามาแทนที่เครื่องเล่นวีซีดี ในปัจจุบันเครื่องเล่นดีวีดีมีราคาไม่ถึงหนึ่งพันบาทก็หาซื้อได้แล้ว เพราะผลิตปริมาณเพิ่มขึ้น ยอดขายสูงขึ้น ราคาย่อมต่ำลง ประกอบกับแผ่นดีวีดีราคาถูกลงเช่นกัน ปัจจุบันสามารถหาซื้อแผ่นดีวีดีคาราโอเกะ (DVD Karaoke) ซึ่งบรรจุมิวสิกวีดีโอ (Music Video) ได้สูงกว่า 100 เพลง ราคาแผ่นดีวีดีคาราโอเกะในลำปางอาจสูงถึง 130 บาท แต่ราคาขายตามชายแดนจังหวัดเชียงรายหรือฝั่งพม่ามีราคาเพียง 20 บาท การซื้อซีดีโป๊จากชายแดนพม่าข้ามมาฝั่งไทยถูกห้าม แต่แผ่นดีวีดีเพลงลิขสิทธิ์ยังซื้อข้ามมาได้ แม้มีข่าวจับผู้ค้าเพราะนำเพลงลิขสิทธิ์ไปจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ก็ยังมีการค้าขายให้พบเห็นจนชินตา เพราะผู้ซื้อไม่เคยลดลง ถ้ากฎหมายเปิดช่องให้ตำรวจจับผู้ซื้อจนไม่มีใครกล้าซื้อเทปผีซีดีเถื่อนอีก เจ้าของลิขสิทธิ์หรือนักร้องอาจมีกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงานเพลงมาให้เราได้รับฟังมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
