# 171 การหาเงินจากเน็ตอย่างง่ายสองวิธี
12 มกราคม - 18 มกราคม 2552
อินเทอร์เน็ตเป็นโลกเสมือนจริงที่ทุกคนสามารถเข้าไปแสดงตัวตน ทำกิจกรรมได้อย่างหลากหลาย เช่น เพิ่มช่องทางในการสื่อสาร หาช่องทางทำเงิน เปิดช่องทางค้าขายใหม่ ต่อยอดธุรกิจที่ทำอยู่ สามารถทำได้ทั้งในฐานะบุคคลหรือองค์กร มีรายรับเริ่มต้นที่ไม่กี่ร้อยบาทไปถึงระดับพันล้านในเวลาไม่กี่ปี เช่น อีเบย์ (eBay.com) เป็นเว็บประมูลสินค้าก่อตั้งในปีพ.ศ. 2538 โดย ปิแอร์ โอมิดดียาร์ บริษัทขยายจนสามารถซื้อเว็บไซต์เพย์พาล (PayPal.com) ในปีพ.ศ.2545 ด้วยราคา 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การทำธุรกิจในอินเทอร์เน็ตไม่มีข้อจำกัดเรื่องความรู้ ไม่ว่าใครก็สามารถเริ่มต้นได้ ไม่จำกัดเรื่องเวลาหรือสถานที่ สามารถสื่อสารได้ทั้งแบบโต้ตอบทันที หรือฝากข้อความให้ติดต่อกลับในภายหลัง ทำได้แม้กระทั่งธุรกิจที่ผิดกฎหมายของบางประเทศไปถึงธุรกิจการกุศล
หนังสือยอดนิยมที่วางขายตามร้านขายหนังสือเกี่ยวกับการทำเงินจากอินเทอร์เน็ตมี 2 กลุ่ม คือ กูเกิลแอดเซนส์ (Google Adsense) และอีเบย์ (eBay) ทั้งสองวิธีดูง่ายเสมือนจับเสือมือเปล่าเพราะใช้เงินลงทุนต่ำ แต่ทั้งสองวิธีมีรายละเอียดที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก คือ อีเบย์เป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้ผู้ใช้จากทั่วโลกนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในฐานะผู้เสนอขาย เมื่อผู้ซื้อเข้าไปพบสินค้าที่ถูกใจก็จะประมูลซื้อสินค้าที่ต้องการ ดังนั้นบุคคลธรรมดาเช่นเราจึงสามารถนำภาพสินค้าเข้าไปแสดงเพื่อเสนอขาย หรือประดิษฐ์สินค้าขึ้นมาด้วยมือ แล้วนำภาพถ่ายไปเสนอขายในอีเบย์ให้ชาวโลกได้เข้าไปเลือกซื้อด้วยวิธีประมูล ถ้าผู้เสนอซื้อท่านใดให้ราคาสูงสุดก็จะได้สินค้าไป ผู้ขายก็จะได้ราคาสูงสุดเป็นสิ่งตอบแทน
กูเกิลแอดเซนส์ คือ เว็บไซต์ที่เปิดให้ผู้พัฒนาเว็บไซต์ เจ้าของโฮมเพจ หรือนักเขียนที่มีบล็อก (Blog) สามารถมีรายได้เพิ่มจากระบบป้ายโฆษณาของกูเกิล ซึ่งโฆษณาเหล่านั้นบริษัทกูเกิลไปรับมาจากเจ้าของสินค้าหรือบริการจากทั่วโลกที่ยินดีจ่ายค่าโฆษณาผ่านระบบนี้ แล้วกูเกิลก็ส่งโฆษณาเข้าไปแสดงในเว็บเพจของสมาชิกที่สมัครใช้บริการกูเกิลแอดเซนส์ ยิ่งแสดงป้ายโฆษณาในเว็บเพจของสมาชิกมากเท่าใดก็จะเป็นรายได้จากค่าโฆษณาที่จ่ายให้สมาชิกมากเท่านั้น ถ้าผู้ใดสนใจเป็นสมาชิกกูเกิลแอดเซนส์แต่ยังไม่มีเว็บไซต์ของตนเอง อาจเลือกใช้บริการฟรีบล็อก หรือฟรีอีคอมเมิร์ซ หรือฟรีเว็บไซต์ เช่น Blogger.com Flixya.com Zlio.com การหาเงินทั้งแบบอีเบย์และกูเกิลแอดเซนส์คงไม่เหมาะที่จะแนะนำให้ใครยึดเป็นอาชีพหลัก ถ้าพิจารณาเป็นงานอดิเรกหรืออาชีพเสริมก็เป็นไปได้ เพราะสิ่งที่คิดว่าจะได้มาง่ายก็มักเป็นได้เพียงความฝันเท่านั้น
