# 279 ยอดขาย super car และ camera
ทราบข่าวทางทีวีว่า Super car ยี่ห้อ Ferrari มียอดขายปี 2553 สูงสุดในจีนตั้งแต่ขายมา มียอดสั่งซื้อเฉพาะประเทศนี้กว่า 300 คัน บริษัทจึงจัดงานฉลองขึ้นที่เมืองเซียงไฮ้ เมื่อย้อนกลับมาดูรถยนต์ในเมืองไทยที่ผู้เขียนคุ้นเคยจะมีราคาประมาณ 5 แสนบาท ถ้ามีฐานะดีระดับประเทศไทยก็อาจซื้อรถยนต์ราคากว่า 5 ล้านบาท แต่สำหรับ Super car บางรุ่นอาจมีราคาถึง 50 ล้านบาท ถ้าผู้เขียนถูกล๊อตโต้ 90 ล้านบาทก็ยังไม่คิดจะซื้อรถยี่ห้อนี้เลย แต่ที่ประเทศจีนเฉพาะปีนี้มีเศรษฐีวัยรุ่นสั่งซื้อไปแล้วกว่า 300 คัน แสดงว่ายอดขายรถยนต์เป็นอีกดัชนีหนึ่งที่ใช้เป็นตัวบ่งชี้การเติมโตทางเศรษฐกิจของประเทศนั้นได้
เป้าหมายการซื้อรถยนต์ของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไป ถ้าอยู่ในกรุงเทพ และต้องการพาหนะที่นำเราไปสู่ที่หมายได้อย่างรวดเร็ว รถมอเตอร์ไซค์ราคาไม่กี่หมื่นบาทย่อมเร็วกว่ารถราคากว่า 50 ล้าน ส่วนรถยนต์มือสองช่วยกันแดดกันฝนได้ก็คงไม่แตกต่างด้านความเร็วเมื่อวิ่งรถในกรุงเทพฯ กับสภาพการจราจรอย่างทุกวันนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับกล้องถ่ายรูป (Camera) ที่ราคาเริ่มต้นประมาณ 2 พันบาทก็ถ่ายรูป ถ่ายคลิ๊ปวิดีโอได้ แต่ถ้าถ่ายได้ไกลกว่า ใกล้ขึ้น มีตัวเลือกให้ปรับเรื่องแสงมากกว่า มักเรียกว่ากล้องโปร หรือซุปเปอร์กล้อง มีราคาเริ่มต้นประมาณ 2 หมื่นบาท แต่ถ้าต้องการกล้องที่ถ่ายภาพยนตร์ได้อาจมีราคาถึง 2 แสนบาท ก็ต้องพิจารณาเลือกซื้อโดยมีวัตถุประสงค์เป็นตัวตั้ง ถ้าต้องการถ่ายภาพเหตุการณ์ทั่วไป กล้องที่ติดมากับโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นใหม่ก็อาจตอบความต้องการได้แล้ว
หลักเศรษฐกิจพอเพียงอาจไม่ถูกใช้เป็นฐานคิดประกอบการตัดสินใจเสมอไป ยังมีหลักเรื่องหน้าตา หลักค่านิยมทางวัตถุ หรือหลักความปลอดภัย การซื้อ Super car หรือรถใหม่ไม่ว่ารุ่นใด สิ่งหนึ่งที่ตามมาคือการถูกชื่นชมจากคนรอบข้าง การถือกล้องขนาดใหญ่ย่อมดูดีเหมือนมืออาชีพกว่ากล้องที่ใส่กระเป๋ากางเกงได้ ไม่ว่าจะเป็นกล้องขนาดใหญ่ หรือ Super car ถ้าซื้อแล้วจอดทิ้งไว้ในโรงรถ หรือเก็บกล้องไว้แต่ในตู้ ก็คงเป็นเพียงเศษวัสดุไร้ค่าที่รอวันปลดระวาง เพราะการพัฒนาเทคโนโลยีเป็นไปอย่างรวดเร็ว ปีถัดไปเราอาจได้ซื้อรถที่เติมน้ำสิงห์ หรือน้ำทะเลก็วิ่งได้แล้วก็เป็นได้
|